5) ความละเอียด24.
5% ป้องกันการเสียชีวิต 98-100% มีประสิทธิภาพ 88% ในการป้องกันการป่วยแบบมีอาการจากไวรัสเดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย หน่วยงานสาธารณสุขระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นองค์การอนามัยโลก (WHO), องค์การยายุโรป (EMA), ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐอเมริกา (CDC), สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา แนะนำให้กลุ่มเด็กที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป สามารถฉีดวัคซีนไฟเซอร์ได้ ทำให้หลายประเทศทั้งในอเมริกา ยุโรป เอเชีย เดินหน้าฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนแล้ว ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย. ) ก็อนุมัติให้ใช้วัคซีนไฟเซอร์สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปีได้เช่นกัน สิ่งที่ผู้ปกครองหลายคนเป็นกังวลก็คือ ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) จากการฉีดวัคซีนชนิด mRNA ซึ่งพบได้ทั้งวัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา โดยรายงานในช่วงแรกระบุว่า มักเกิดภาวะนี้ในเด็กชายอายุ 12-17 ปี ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นหลังฉีดวัคซีนเข็มที่ 2 แต่อัตราการเกิดยังน้อยมาก และส่วนใหญ่สามารถหายเองได้ หรือรักษาจนหายได้ ก่อนที่ภายหลังศูนย์ควบคุมโรคติดต่อสหรัฐอเมริกา (CDC) จะรายงานว่า พบอุบัติการณ์ของโรคนี้สูงขึ้น โดยในเด็กผู้ชายอายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 62. 5 ต่อล้านโดส และในเด็กผู้หญิงอายุ 12-17 ปี อยู่ที่ 17 ต่อล้านโดส สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ระบุว่า อัตราการเกิดโรคกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ และโรคเยื่อหุ้มหัวใจ หลังการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ 2 เข็ม ในเด็กผู้ชายที่มีสุขภาพดี มีอัตราสูงขึ้น ซึ่งทำให้อัตราความเสี่ยงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ในเด็กผู้ชายอายุ 12-15 ปี มากกว่าความเสี่ยงติดเชื้อโควิด ดังนี้ เด็กชาย อายุ 12-15 ปี เกิดภาวะกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ 162.