อาหารประเภทแป้งและน้ำตาลเป็นตัวการที่ทำให้ร่างกายง่วงซึม ซึ่งในที่นี้หมายถึงการกินน้ำตาลและแป้งในปริมาณที่มากจนเกินไปนะคะ เนื่องจากเมื่อเรากินอาหารประเภทนี้เข้าไปมาก ตับอ่อนก็จะส่งอินซูลินออกมาเพื่อย่อยน้ำตาลเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น ก่อให้เกิดอาการง่วงงุนตามมา แต่สำหรับใครที่รู้ตัวแน่ ๆ ว่าเราหาวบ่อยเพราะง่วง อยากให้เช็กด้วยค่ะว่าอาการง่วงนอนบ่อย ๆ เหมือนจะเพลียร่างไม่เลิกนี้บอกโรคอะไรเราอยู่หรือเปล่า – ง่วงนอนบ่อย เพลียตลอดเวลา ส่ออาการเจ็บป่วยได้หลายโรค!
หาว เป็นอย่างไร? หาว เป็นกระบวนการที่มักเกิดขึ้นอย่างไม่ตั้งใจ มีลักษณะอาการ คือ อ้าปากแล้วสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ นำอากาศเข้าสู่ปอด ก่อนจะหายใจออกมา หาวอาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาสั้น ๆ หรือยาวนานหลายวินาทีก่อนที่คนจะอ้าปากเพื่อหาว โดยกระบวนการหาวอาจเกิดร่วมกับการมีน้ำตาไหล การยืดกล้ามเนื้อ หรือการเกิดเสียงในขณะหาวได้ด้วยเช่นกัน ทำไมคนเราต้องหาว?
การทานยาเองโดยไม่ปรึกษาแพทย์ รู้หรือไม่ว่าการทานยาบางชนิดก็อาจทำให้เกิดอาการวูบได้เหมือนกัน ด้วยเหตุนี้แพทย์จึงไม่ค่อยแนะนำให้ซื้อยาทานเอง เพราะยาบางชนิดจะไปลดระดับความดันโลหิตให้ต่ำลง จึงมักจะเกิดอาการหน้ามืดได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อขยับเปลี่ยนท่า เพราะฉะนั้น ก่อนที่จะทานยาอะไร ควรปรึกษาแพทย์ก่อนเสมอ และควรให้แพทย์สั่งจัดยาให้จะดีที่สุด หมายเหตุ: ยาลดความอ้วนก็เป็นตัวยาอีกชนิดหนึ่งที่ส่งผลให้เกิดอาการเหล่านี้ได้เหมือนกัน ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาด 6. ความผิดปกติของสมอง เมื่อสมองมีความผิดปกติ ไม่ว่าจะเป็นภาวะหลอดเลือดสมองอุดตัน การเป็นโรคลมชักหรือภาวะอื่นๆ ก็เป็นผลให้เกิดอาการหน้ามืดได้เช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่มักจะมาพร้อมกับอาการปวดศีรษะร่วมด้วย ดังนั้นหากมีอาการหน้ามืด วูบ และปวดศีรษะไม่ว่าจะปวดน้อยหรือปวดมาก ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติของสมองโดยด่วน เพราะหากปล่อยไว้นานๆ อาจอันตรายถึงขั้นเป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เพราะฉะนั้นอย่าชะล่าใจ 7. ไอแรงหรือเบ่งอุจจาระแรงๆ การไอ หรือการเบ่งอุจจาระแรงๆ จะทำให้ความดันเลือดตกอย่างรวดเร็ว จึงเกิดอาการวูบ และหน้ามืดแบบกะทันหัน ซึ่งส่วนใหญ่จะมีอาการตัวเย็น เหงื่อชื้นร่วมด้วย โดยจะต้องอยู่นิ่งๆ สักพักเพื่อให้ความดันเข้าที่ แล้วอาการวูบก็จะค่อยๆ หายไปในที่สุด 8.
บทความเดียวรู้ครบเรื่องเรอ ทั้งสาเหตุ พฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ทำให้เรอ วิธีป้องกัน และการรักษาที่ถูกต้อง เผยแพร่ครั้งแรก 14 เม. ย. 2018 อัปเดตล่าสุด 17 พ. 2020 เวลาอ่านประมาณ 2 นาที ในปัจจุบันหลายๆ คนมักประสบปัญหากับอาการอาหารไม่ย่อย จนกระทั่งทำให้มีอาการท้องอืด แน่นท้อง รู้สึกแสบร้อนในท้องช่วงบน หรืออาจจะมีอาการเรอบ่อย (Belching) จนรู้สึกรำคาญตัวเอง เนื่องจากเป็นๆ หายๆ และยังทำให้เสียบุคลิกอีกด้วยเช่นกัน สาเหตุของอาการเรอ สาเหตุหลักๆ ของอาการเรอคือมีปริมาณลมในกระเพาะอาหารจำนวนมาก โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยๆ คือการรับประทานอาหารหรือเครื่องดื่มในปริมาณมากเกินไป แพ็กเกจที่คุณอาจสนใจ ทำเลสิกวันนี้ ที่คลินิกหรือรพ. ใกล้บ้านคุณ เริ่มต้นที่ 0 บาท ลดสูงสุด 25650 บาท จองผ่าน HD ประหยัดกว่า / จ่ายทีหลังได้ / ผ่อน 0% ได้ / พร้อมแอดมินคอยตอบทุกคำถาม!
เว็บไซต์ของเพชรเวช () อาจจะฝัง cookies ไว้ยังอุปกรณ์ของท่านเพื่อทำการเก็บข้อมูลส่วนตัวและติดตามการกลับมาเยี่ยมชมเว็บไซต์ของท่านในอนาคต เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาพัฒนาเว็บไซต์ให้ตรงตามความต้องการของท่านมากยิ่งขึ้น หากผู้ใช้ไม่ต้องการให้ข้อมูลใด ๆ ที่ทางเว็บไซต์ร้องขอผู้ใช้สามารถปฏิเสธการรับ cookies นี้ได้ แต่ท่านยังคงสามารถเยี่ยมชมบริการและใช้บริการต่าง ๆ ได้เช่นกัน ยกเว้นข้อมูลที่เกี่ยวกับการสั่งซื้อแพ็กเกจสุขภาพ ทั้งนี้หากท่านยอมรับการเก็บ cookies แล้วท่านต้องการยกเลิกการให้ข้อมูลดังกล่าวท่านสามารถดำเนินการได้ด้วยการลบ cookies ได้ที่ประวัติการเข้าชมเว็บไซต์ตามเบราว์เซอร์ที่ท่านใช้ได้ทันที 17. ทางเพชรเวชได้แปลคำศัพท์จากภาษาอังกฤษเป็นภาษาไทยที่เกี่ยวกับเทคนิคทางการแพทย์เพื่อให้ผู้ใช้บริการเข้าใจการวินิจฉัยโรคได้ง่าย ซึ่งคำศัพท์นั้นอาจจะไม่ตรงตามความหมายของเทคนิคการแพทย์โดยตรง หากท่านเกิดข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่โรงพยาบาลโดยตรง
1 ไม่ได้วอร์มก่อนวิ่ง ก่อนการออกกำลังกายทุกชนิดจะต้องมีการยืดเส้นยืดสายหรือวอร์มอัพร่างกายก่อนทุกครั้ง สำหรับการวิ่งก็เช่นกัน ซึ่งหากไม่ได้ วอร์มร่างกาย ก่อนออกวิ่ง โดยเฉพาะการวิ่งระยะทางไกลอาจทำให้เกิดอาการจุกได้ง่าย เนื่องจากกล้ามเนื้ออยู่ในสภาวะที่ยังไม่พร้อมทำงาน หากมีการใช้งานหนักอย่างเฉียบพลันก็จะเกิดอาการจุกขึ้นได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การวิ่งด้วยความเร็วสูงในเวลาอันสั้นหรือวิ่งเร็วติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยที่ไม่ได้วอร์มอัพกล้ามเนื้อก่อน บทความแนะนำ: ท่ายืดเหยียดสำหรับนักวิ่ง 1. 2 กินมื้อใหญ่ก่อนวิ่ง ก่อนวิ่ง หากกินอาหารมื้อใหญ่ หรือกินอิ่มมากๆ จะทำให้เกิดอาการวิ่งแล้วจุกได้ เนื่องจากหลังการกินอาหาร กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกายกำลังทำงานหนักเพื่อย่อยอาหารที่กินเข้าไป ดังนั้นหากวิ่งหลังกินอาหารมาใหม่ๆ ร่างกายก็จะทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า ซึ่งเป็นสาเหตุของอาการจุกได้ แล้วควรต้องกินอย่างไรและกินอะไรดี ตามไปอ่านต่อกันได้ที่ เทคนิคกินก่อนออกกำลังกาย 1. 3 วิ่งด้วยท่าที่ไม่ถูกต้อง ท่าวิ่งที่ถูกต้อง คือ หลัง ไหล่ยืดตรง ไม่งอ ซึ่งท่าดังกล่าวนี้จะทำให้ระบบการหายใจเข้า หายใจออก สามารถนำออกซิเจนเข้าสู่ร่างกายได้อย่างเพียงพอ แต่หากวิ่งด้วยท่าที่ไม่ถูกต้องแล้ว ปริมาณออกซิเจนที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายจะไม่เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้อเกิดกรดแลกติกได้ง่าย ซึ่งหากมีกรดแลกติกมากก็จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดความเมื่อยล้าและจุกเสียดได้นั่นเอง 1.
วิธีแก้ปัญหาจอดำเบื้องต้นสำหรับผู้ใช้ Windows 10 อาการจอดำของคอมพิวเตอร์เกิดจากอะไรได้บ้าง แก้ยังไงมาดูกัน ปัญหาจอดำ หนึ่งในปัญหาโลกแตกของคนใช้คอมพิวเจอร์ที่เมื่อเจอแล้วจะต้องปวดหัวกันเป็นแน่แท้ เพราะไม่รู้จะแก้ยังไง มีสาเหตุมาจากอะไรก็ไม่รู้ ทำอะไรไม่ได้เลยเพราะไม่มีข้อความหรืออะไรปรากฎบนหน้าจอทั้งสิ้น อย่างก็มีเพียงแค่ลูกศรให้ขยับเมาส์ได้ ลองปิดแล้วเปิดเครื่องใหม่แล้วก็ยังไม่หาย วันนี้เราก็เลยจะมาช่วยแนะนำเบื้องต้นกันว่าปัญหาจอดำบน Windows 10 นั้นเกิดจากอะไรได้บ้าง แล้วจะสามารถแก้ได้อย่างไรบ้าง โดยแยกออกเป็นข้อ ๆ ตามสาเหตุ ดังนี้ 1. จอดำขณะติดตั้ง Windows 10 ถ้าหากระหว่างติดตั้ง Windows 10 แต่จอดำมองไม่เห็นอะไรเลย ให้สังเกตที่ไฟ HDD ถ้าหากไฟกระพริบแปลว่าการติดตั้งยังดำเนินต่อไป แค่ช้าจากอายุการใช้งานของคอมพิวเตอร์ ให้รอต่อไปจนกว่าจะติดตั้งเสร็จ แต่ถ้าหากไฟ HDD ไม่ติด ให้ลองกดปุ่ม Power ค้างเพื่อปิดเครื่อง ถอดการเชื่อมต่ออุปกรณ์ที่ยังไม่ได้ใช้ออกแล้วเปิดมาลองติดตั้งใหม่ หรือถ้าหากเป็นการติดตั้งด้วยการอัปเดตจาก Windows เวอร์ชั่นเก่า ก็ให้ใช้วิธีล้างเครื่องแล้วติดตั้งใหม่ทั้งหมดแทน 2. จอดำหลัง Windows Update อีกหนึ่งสาเหตุที่มีหลายคนเคยเจอก็คือจอดำหลังจากอัปเดต Windows แล้วรีสตาร์ตเครื่อง ทำให้ไม่สามารถใช้งานอะไรได้เลย เพราะบนหน้าจอไม่แสดงแม้แต่ Taskbar ให้ลองกดปุ่ม Power ค้างเพื่อปิดเครื่องแล้วเปิดใหม่ โดยส่วนใหญ่แล้วจะทำให้อาการจอดำหายไป แต่ถ้าหากยังไม่หายก็อาจต้องหาวิธีอื่น ๆ เพื่อแก้ไข เช่น ติดตั้ง Windows ใหม่ 3.
00 น. เพราะถ้าดื่มหลัง 14. 00 น.
การขาดการดูแลรักษาความสะอาดช่องปากอย่างถูกวิธี ไม่ขูดหินปูนเป็นเวลานาน ทำให้เกิดการสะสมของคราบจุลินทรีย์และหินปูน ซึ่งเป็นที่สะสมของเชื้อโรค 2. ยาบางชนิด หากรับประทานติดต่อกันเป็นเวลานานก็มีผลทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบได้ เช่น ยาเม็ดคุมกำเนิด ยาต้านอาการซึมเศร้า ยาระงับชัก และยาโรคหัวใจ 3. การขาดสารอาหารบางประเภท เช่น แคลเซียม วิตามินบี วิตามินซี ก็อาจทำให้เกิดโรคเหงือกได้เช่นกัน 4. โรคเบาหวาน ผู้ป่วยโรคเบาหวานจะมีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเหงือกอักเสบที่รุนแรงกว่าคนทั่วโลก โดยเฉพาะในกรณีหญิงตั้งครรภ์ที่เป็นโรคเบาหวาน 5. พันธุกรรม มีข้อมูลระบุว่า ผู้ที่เป็นโรคเหงือกอักเสบ ร้อยละ 30 เกิดจากปัจจัยทางพันธุกรรม 6.