แมลง ตัว เล็ก ๆ ใน บ้าน
ดอกดาวเรือง นำดอกดาวเรืองมาแช่น้ำประมาณ 1 คืน จากนั้นนำน้ำที่ได้มาวางบริเวณที่พบแมลงหวี่ หรือจะนำน้ำนั้นมาฉีดพ่นบริเวณดังกล่าวก็ได้ สารที่มีในดอกดาวเรืองจะไล่แมลงหวี่ออกไปไม่ให้กวนใจบ้านคุณได้อีก 3. เชือกชุบน้ำมัน นำเชือกมาทาน้ำมันพืชหรือน้ำมันหมู จากนั้นนำไปแขวนบริเวณที่พบแมลงหวี่ แมลงหวี่จะบินเข้ามาติดเชือก จากนั้นค่อยนำไปกำจัดต่อไป 4. สเปรย์ตะไคร้ ตะไคร้เป็นสมุนไพรจากธรรมชาติที่สามารถไล่แมลงได้หลายชนิด หนึ่งในนั้นก็คือแมลงหวี่ โดยนำสเปรย์ตะไคร้ไปฉีดบริเวณที่พบแมลงหวี่ เท่านี้แมลงหวี่ก็จะไม่มากวนใจในบ้านอีก 5. น้ำส้มสายชู วิธีนี้ได้ผลดีโดยเฉพาะกับน้ำส้มสายชูที่หมักจากแอปเปิ้ล โดยนำน้ำส้มสายชูมาใส่ในขวดหรือแก้วพลาสติก จากนั้นใช้ถุงพลาสติกคลุมบริเวณปากขวดหรือปากแก้ว เจาะรูเล็ก ๆ พอให้แมลงหวี่บินเข้าไปได้ แมลงหวี่จะหลงติดกับเข้าไปในแก้ว จากนั้นน้ำส้มสายชูที่มีฤทธิ์เป็นกรดซึ่งมีพิษต่อแมลงหวี่จะเป็นตัวกำจัดให้เอง 6. เครื่องดักแมลง วิธีที่ทุ่นแรงสำหรับคนที่ไม่มีเวลาแต่สามารถกำจัดแมลงหวี่ได้เด็ดขาดเช่นกัน คือใช้เครื่องดักแมลง ซึ่งปัจจุบันมีให้เลือกมากมายหลากหลายรูปแบบ และหลายระดับราคา วิธีกำจัดแมลงหวี่ขน แมลงหวี่ขน แมลงท่อ หรือแมลงห้องน้ำ มักพบในห้องน้ำ ดังนั้นการทำความสะอาดห้องน้ำและท่อระบายน้ำจึงเป็นวิธีกำจัดแมลงหวี่ขนได้ดีที่สุด ดังนี้ 1.
แมลงหวี่ในบ้าน อันตรายไหม 10 วิธีกำจัดแมลงหวี่ให้หมดจากบ้าน| DDproperty.com
- แมลงหวี่ในบ้าน อันตรายไหม 10 วิธีกำจัดแมลงหวี่ให้หมดจากบ้าน| DDproperty.com
- มีแมลงตัวเล็กมากๆ อยู่เต็มที่นอน และผนังห้องตรงบริเวณเตียง และมันยังไต่ตามตัวผมไปทั่ว มันคือตัวอะไรใครพอทราบบ้างครับ..? - Pantip
- กรมการปกครอง แจ้งทุกหน่วยงานยกเลิกใช้สำเนาบัตร ปชช.
- ซื้อยางรถยนต์ มองหายางรถยนต์คุณภาพ ต้องบริดจสโตน | Bridgestone.co.th
- เปลี่ยน หน้า จอ วี โว่ Y71 ราคา
แมลงหวี่ มีลำตัวเล็ก ตัวเต็มวัยยาวประมาณ 3-4 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีเหลืองถึงน้ำตาลดำ ตามีขนาดใหญ่สีแดง กินอาหารจำพวกผัก และผลไม้ ชอบผลไม้ที่เน่าเสีย และที่มีราขึ้น 2. แมลงหวี่ตา เป็นแมลงตัวเล็ก ๆ ขนาด 1. 5-2. 5 มิลลิเมตร ลำตัวมีสีน้ำตาลถึงดำ ตามีสีน้ำตาลขนาดใหญ่ กินอาหารจำพวกพืชผัก หรือผลไม้เน่าเปื่อย ขยะ อาหารสด เมือกและน้ำเหลืองของคนและสัตว์ 3.
Cover
ตาแดง โรคยอดฮิตที่มาจากแมลงหวี่ เนื่องจากเป็นแมลงที่ชอบตอมบริเวณดวงตา จึงเป็นพาหะนำโรค เข้ามาสู่ดวงตามากที่สุด โดยผู้ที่ได้รับเชื้อ หลังจากได้รับเชื้อโรคเข้าตา ประมาณ 24-48 ชั่วโมง จะมีอาการระคายเคืองตา ปวดตา มีน้ำตาไหล กลัวแสง มีขี้ตามาก หนังตาบวม เยื่อบุตาขาวจะอักเสบ แดง ซึ่งอาจเริ่มที่ตาข้างใดข้างหนึ่งก่อน หรือเป็นทั้ง 2 ข้างพร้อมกันก็ได้ อาจมีไข้ต่ำ ๆ หรือครั่นเนื้อครั่นตัว หรืออาการปวดเสียวที่แขนขาร่วมด้วย 2. บิด และไทฟอยด์ พาหะนำโรคมาจากการที่แมลงหวี่ไปเกาะตามแหล่งสกปรก แล้วติดสิ่งสกปรกมากับตัวของมัน ขน ขา ต่าง ๆ เมื่อมันมาเกาะเข้าที่อาหาร และคุณรับประทานเข้าไป เชื้อโรคจึงเข้าสู่ร่างกาย และกลายเป็นอาการเจ็บป่วยขึ้นมานั่นเอง โดยโรคบิดจะเกิดอาการในระบบทางเดินอาหาร ได้แก่ ปวดท้อง ท้องเดิน ถ่ายอุจจาระบ่อยครั้ง อาจจะถ่ายครั้งละมาก ๆ หรือน้อยก็ได้ อุจจาระจะมีลักษณะพิเศษ คือ มีมูกปนเลือด หรือในบางครั้งจะมีมูกอย่างเดียว และมีอาการปวดถ่วงบริเวณทวารหนัก ส่วนไทฟอยด์ อาการที่พบได้ทั่วไป เช่น มีไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดท้อง ท้องผูกและท้องเสีย 3. แผลปากหมู ลักษณะของโรคจะเป็นคล้ายกับอาการพุพอง คัน และเป็นแผลเรื้อรังตามตัว ซึ่งสาเหตุมาจากสิ่งสกปรกที่เข้ามาในแผล หรือแมลงหวี่เป็นพาหะนำโรค บริเวณที่เป็นจะมีอาการ บวม ตึง อักเสบ เป็นไข้ต่ำ ๆ หากร้ายแรงอาจมีโอกาสติดเชื้อในกระแสเลือดได้ด้วย วิธีป้องกันแมลงหวี่ การป้องกันแมลงหวี่ไม่ให้เข้าบ้านนั้นจะต้องเริ่มตั้งแต่การดูแลความสะอาดภายในและบริเวณบ้าน ดังนี้ 1.
